หากเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้า หรือทรัพย์สินสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นเสาไฟจราจร ป้ายจราจร แบริเออร์ ต้นไม้ หรืออุปกรณ์อื่นๆ คุณอาจต้องเผชิญกับค่าปรับมหาศาลสูงสุดถึง 1 ล้านบาท! การทำความเข้าใจค่าเสียหายและความรับผิดชอบของประกันภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
ค่าเสียหายจากการ[url=http://www.therainykitchen.com/480/]ขับรถชนเสา (http://www.therainykitchen.com/480/)[/url][ol]
- ชนเสาไฟฟ้า
[ul]
- เสาไฟฟ้าแรงต่ำ: 10,000-30,000 บาท/ต้น
- เสาไฟฟ้าแรงกลาง: 30,000-100,000 บาท/ต้น
- หากมีหม้อแปลงหรือสายสัญญาณ: เพิ่มค่าเสียหาย 500,000-1,000,000 บาท
[/ul]
- ชนแบริเออร์
[ul]
- ค่าปรับ: 800-15,000 บาท ขึ้นอยู่กับวัสดุ ความเสียหาย และจำนวน
[/ul]
- ชนต้นไม้/พุ่มไม้
[ul]
- ค่าปรับ: ประมาณ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด อายุ และจำนวนต้นไม้
[/ul]
- ชนป้ายจราจร
[ul]
- ค่าปรับ: 1,000-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและความเสียหาย
[/ul]
- ชนกรวยจราจร
[ul]
[/ul]
- ชนแผงกั้นจราจรเหล็ก
[ul]
[/ul]
- ชนเสาสีส้มล้มลุก
[ul]
[/ul]
[/ol]
ประกันภัยรถยนต์รับผิดชอบหรือไม่?
[ol]
- ประกันชั้น 1
ครอบคลุมค่าเสียหายทั้งหมดตามวงเงินกรมธรรม์ แม้ว่าจะเป็นการชนทรัพย์สินสาธารณะ - ประกันชั้น 2
รับผิดชอบบางส่วน โดยผู้ขับขี่ต้องร่วมจ่ายในส่วนที่เหลือ - ไม่มีประกันภัย
ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตนเอง
[/ol]
ความผิดตามกฎหมายหากชนทรัพย์สินสาธารณะและไม่จ่ายค่าปรับ จะถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา
(https://s.isanook.com/au/0/ud/18/94375/new-thumbnail1200x720-2025-.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/webp)
ข้อแนะนำ[ul]
- ขับขี่อย่างระมัดระวัง: เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น
- ทำประกันภัยชั้น 1: คุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี
- รายงานอุบัติเหตุทันที: หากเกิดเหตุชนทรัพย์สิน ควรติดต่อประกันและเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการอย่างถูกต้อง
[/ul]
การมีสติและปฏิบัติตามกฎจราจรจะช่วยลดความเสี่ยงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ดีที่สุด