• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🛒⚡การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) ⚡จุดเริ่มต้นที่ดีของ🥇การก่อสร้าง📌

Started by Beer625, Jul 31, 2024, 08:06 AM

Previous topic - Next topic

Beer625

สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีความแปรปรวนของชั้นดิน 🥇ทำให้ลักษณะพื้นที่ไม่เหมือนกับพื้นที่ทั่วไป 🎯เช่น มีชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือความลึกของชั้นดินแข็งแรงมีความผันแปรสูง ⚡เป็นต้น จากลักษณะของชั้นดินนี้ อาจทำให้ฐานรากเกิดการวิบัติได้ ⚡ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่การออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น 📢จึงต้องจัดให้มีการสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ✅เพื่อการวิเคราะห์ดินอย่างละเอียด 🌏เมื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับดินในส่วนใดแล้ว จะต้องมีการวางแผนการสำรวจดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง 📢เพราะดินมีคุณสมบัติที่ซับซ้อนและแตกต่างกันตามสถานที่ 👉จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะสมที่สุดไปกับดินทุกสภาพ⚡



โครงสร้างหลาย ๆ อย่าง 🎯จะมีความแข็งแรง ต้องมีฐานรากที่มั่นคงรองรับ 🦖ในการออกแบบฐานราก การสำรวจชั้นดินมีความสำคัญอย่างมาก 🥇ที่จะทำให้วิศวกรสามารถออกแบบฐานรากได้อย่างปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม 👉สำหรับขอบเขตและรายละเอียดของงานที่จะทำการสำรวจนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ ✅และสภาพชั้นดิน ⚡โดยวิศวกรออกแบบควรเป็นผู้กำหนดรายละเอียดของการสำรวจชั้นดินเพื่อให้ได้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์และออกแบบอย่างเพียงพอ 📢บริการทดสอบดินและจัดทำรายงานวิเคราะห์ความยาวเสาเข็ม โดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ✅

การเจาะสำรวจดินในเบื้องต้น 👉เป็นการเจาะหรือขุดดินเพียงเล็กน้อย 🥇เพื่อต้องการทราบชนิดของดิน การเรียงตัวของชั้นดิน 📌ระดับน้ำใต้ดิน อันจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมเครื่องมือและวางแผนงานได้ดี 🌏ส่วนการเจาะดินโดยละเอียดนั้น เป็นการวางแผนการเจาะชั้นดินอย่างละเอียด 🎯โดยทั่วไปจะระบุ จุดเจาะดิน จำนวนหลุมเจาะดิน ความลึกของหลุมสำรวจ📢 และการทดสอบที่ต้องดำเนินการ 📌โดยปกติแล้วจะต้องการข้อมูลสำหรับการวิเคราะห์ความแข็งแรงของดินและการคำนวณการทรุดตัวของสิ่งก่อสร้าง🎯

✨🥇🛒การเก็บตัวอย่างดินมี 2 ลักษณะ คือ✨🥇🛒

📢1. ดินที่ถูกรบกวน (Disturbed Sample) 🎯เป็นดินที่ถูกกระทบกระเทือน ✨จนทำให้โครงสร้างและการจับตัวของเม็ดดินเปลี่ยนแปลง 🦖หรืออาจจะสูญเสียความชื้นในดิน อาจเกิดจากการเก็บตัวอย่างดินที่ไม่เหมาะสม🌏 การขนส่ง และการเก็บรักษา ⚡ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่ได้จากการทดสอบด้วยสว่านมือ 🥇และตัวอย่างดินที่ได้จากการตอกวัดค่าด้วยกระบอกผ่า ดินที่ได้ไม่สามารถนำไปทดสอบด้านการรับน้ำหนักของดินได้ 🥇เนื่องจากดินได้รับผลกระทบจากการกระแทก การอัด 🛒ซึ่งโครงสร้างของดินได้เปลี่ยนไป แต่สามารถนำไปหาคุณสมบัติเพื่อจำแนกประเภทของดินได้⚡

🥇2. ตัวอย่างดินคงสภาพ (Undisturbed Sample) 🌏เป็นตัวอย่างดินที่เก็บในสนาม 🎯โดยพยายามให้ทั้งโครงสร้างและองค์ประกอบของดินทุกอย่างเหมือนกับสภาพที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในสนาม 🦖ซึ่งได้แก่ตัวอย่างดินที่เก็บจากกระบอกบางเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป 🥇ถือว่าเป็นตัวอย่างดินคุณภาพสูง 📌สามารถนำไปทดสอบคุณสมบัติต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการเกือบทุกอย่าง 🎯รวมถึงคุณสมบัติในความแข็งแรงและคุณสมบัติในการรับน้ำหนักของดิน🛒